วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทินครั้งที่ 3

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อ.ตฤณ  แจ่มถิน
วันพุธที่ 28 มกราคม 2558
ครั้งที่ 3 เวลา 08.30-12.20 น.



ความรู้ที่ได้รับ

ในต้นชั่วโมงวันนี้ อาจารย์ให้นักศึกษาวาดภาพดอกไม้ ซึ่งอาจารย์ได้กำหนดดอกไม้ไว้แล้ว คือ ดอกกุหลาบ  โดยวาดให้เหมือนจริงที่สุดและระบายสีให้เหมือนจริงที่สุด

ภาพดอกกุหลาบที่อาจารย์ให้วาด

วาดภาพดอกกุหลาบด้วยดินสอ

เริ่มระบายสี


ระบายสีดอกกุหลาบพร้อมเขียนสิ่งที่เห็น


ดอกกุกลาบที่อาจารย์ให้นักศึกษาวาด สื่อให้เห็นถึงว่า ครูไม่ควรใช้ความรู้สึก  ในการบันทึกพฤติกรรมของเด็กพิเศษ ควรบันทึกในสภาพที่เห็นจริงและอย่าใส่อารมณ์ของครูลงไปเด็ดขาด


เรื่องที่เรียนในวันนี้ คือ บทบาทของครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม

ครูไม่ควรวินิจฉัย : ห้ามวินิจฉัยโรคของเด็กเป็นอันขาด แต่ครูทำได้เพียงสันนิฐานก็พอ เพราะการวินิจฉัยเป็นหน้าที่ของคุณหมอเท่านั้น

ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือระบุประเภทของเด็ก : ห้ามตั้งฉายาให้เด็กเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเป็น เด็กปกติ หรือ เด็กพิเศษ เพราะเด็กเกือบ 100 % ไม่ชอบการตั้งฉายา ถึงแม้ว่าความหมายของชื่อจะน่ารักก็ตาม

ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกติ : ห้ามนำเรื่องไม่ดีไปบอกพ่อแม่ของเด็กเด็ดขาด เพราะพ่อแม่ไม่ต้องการให้คนเป็นครูมาย้ำเรื่องที่ไม่ดีและเป็นปัญหาของลูก เขาต้องการคำชมจากครู

ครูทำอะไรบ้าง : ครูต้องสังเกตเด็กและจดบันทึกพฤติกรรมเด็กอย่างเป็นระบบ การจดบันทึกพฤติกรรมต้องจดบันทึกทุกอย่างที่เด็กทำ เขียนตามทุกอย่างที่เด็กพูดและเขียนตามความเป็นจริง

สังเกตอย่างมีระบบ : บันทึกทุกอย่างที่เด็กทำและเขียนทุกอย่างที่เด็กพูด

การบันทึกการสังเกต มี 3 แบบ

 การนับอย่างง่ายๆ : นับจำนวนครั้งของการเกิดพฤติกรรม กี่ครั้งในแต่ละวัน กี่ครั้งในแต่ละชั่วโมงและระยะเวลาในการเกิดพฤติกรรม

การนันทึกแบบต่อเนื่อง : เป็นการบันทึกที่ดีที่สุด บันทึกทุกครั้งที่เด็กทำกิจกรรมหรือทุกพฤติกรรมที่เด็กทำ เช่น กิจกรรมเสรี กิจกรรมเคลื่อนไหว กิจกรรมศิลปะ เป็นต้น

การบันทึกไม่ต่อเนื่อง : เป็นการบันทึกระยะสั้นและบันทึกในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น

การตัดสินใจ : ก่อนที่จะทำอะไร พูดอะไร ครูควรคิดและตัดสินใจให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะทำ

กิจกรรมท้ายชั่วโมงอาจารย์ให้นักศึกษาร้องเพลง 1 เพลงก่อนออกจากห้องเรียน

เพลง ฝึกกายบริหาร 

ฝึกกายบริหารทุกวันร่างกายแข็งแรง
ฝึกกายบริหารทุกวันร่างกายแข็งแรง
รูปทรงสมส่วนแคล่วคล่องว่องไว
รูปทรงสมส่วนแคล่วคล่องว่องไว




การนำความรู้ไปใช้
สามารถนำความรู้ที่ได้เรียนในวันนี้ไปใช้ในการบันทึกและสังเกตพฤติกรรมของเด็กพิเศษที่เรียนรวมกันในห้องเรียนของเด็กปกติได้ เพราะเข้าใจการบันทึกพฤติกรรมของเด็กพิเศษพอสมควร

สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาเด็กพิเศษได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในด้านที่เด็กมีพัฒนาการที่จะต้องแก้ไข

ทำให้รู้ถึงวิธีการการบันทึกสังเกตพฤติกรรมของเด็กพิเศษและเข้าใจถึงบทบาทของครูที่จะต้องนำไปใช้ในการสอนในอนาคตได้เป็นอย่างดี


ประเมินตนเอง : มาเรียนตรงเวลา ช่วยอาจารย์ยกอุปกรณ์การเรียนการสอน ตั้งใจฟังอาจารย์สอนและจดบันทึกเนื้อหาเพิ่มเติม พร้อมทั้งร่วมกิจกรรมการร้องเพลงในท้ายชั่วโมง ตั้งใจวาดภาพดอกกุหลาบ

ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจเรียนและฟังสิ่งที่อาจารย์และเล่าประสบการณ์ ร่วมกิจกรรมการร้องเพลงและวาดภาพดอกกุหลาบอย่างสนุกสนาน

ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ตั้งใจสอนนักศึกษา อธิบายในห้วข้อต่างๆได้ดีและยกตัวอย่างหรือเล่าประสบการณ์ที่อาจารย์เคยพบเห็นให้นักศึกษาฟัง เพื่อเป็นแนวทางให้แก่นักศึกษาในอนาคต อาจารย์สอนสนุกสนาน มีความสุขทุกครั้งที่ได้เรียนกับอาจารย์




วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทินครั้งที่ 2

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อ.ตฤณ  แจ่มถิน
วันพุธที่ 21 มกราคม 2558
ครั้งที่ 2 เวลา 08.30-12.20 น.




ความรู้ที่ได้รับ

   ในต้นชั่วโมงของการเรียนในวันนี้ อาจารย์ให้นักศึกษาร้องเพลงสำหรับเด็กปฐมวัย ดังนี้

เพลง แปรงฟัน

ตื่นเช้าเราแปรงฟัน
กินอาหารแล้วเราแปรงฟัน
ก่อนนอนเราแปรงฟัน
ฟันสะอาดขาวเป็นเงางาม
แปรงฟันที่ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง
แปรงฟันที่ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง

เพลง อาบน้ำ

อาบน้ำซู่ซ่า ล้างหน้าล้างตา
ฟอกสบู่ถูตัว ชำระเหงื่อไคล
ราดน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วเช็ดตัว
อย่าให้ขุ่นมีว สุขกายสบายใจ

เพลง พี่น้องกัน

บ้านของฉันอยู่ด้วยกันมากหลาย
พ่อ แม่ ปู่ ย่า ลุง ป้า ตา ยาย
มีทั้งน้า อา พี่และน้องมากมาย
ทุกคนสุขสบาย เราเป็นพี่น้องกัน

เพลง มาโรงเรียน

เรามาโรงเรียน เราเขียนเราอ่าน
ครูเล่านิทานสนุกถูกใจ
เราเรียนเราเล่น เราเป็นสุขใจ
ร่าเริงแจ่มใสเมื่อมาโรงเรียน
ผู้แต่ง อ. ศรีนวล รัตนสุวรรณ

    การร้องเพลงเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เด็กรู้จักกิจวัตรประจำวันของตนเอง ความมีระเบียบวินัย คุณธรรมและจริยธรรม เพราะเพลงสามารถสื่อความหมายให้เด็กได้รับรู้เป็นอย่างดีมากกว่าการพูด การบอกให้เด็กทำเป็นอย่างๆ เมื่อเราเริ่มร้องเพลง เด็กจะรู้ว่าเขาควรต้องทำอย่างไร โดยที่เขาทำได้เองโดยอัตโนมัติ การสื่อความหมายด้วยเพลง คือ  สิ่งสำคัญสำหรับเด็กปฐมวัยและเพลงยังสามารถใช้กับเด็กพิเศษได้เป็นอย่างดีในกิจวัตรประจำวันนรวมทั้งสามารถช่วยบำบัดเด็กที่มีความต้องการพิเศษได้ และกิจกรรมที่มักเอาเด็กพิเศาเข้าร่วม คือ กิจกรรมดนตรีและเคลื่อนไหว กิจกรรมศิลปะ



 
   อาจารย์สอนเรื่อง ความหมายของการศึกษาแบบเรียนร่วมและการศึกษาแบบเรียนรวม ซึ่งการศึกษาแบบเรียนร่วมและการศึกษาแบบเรียนรวมมีความแตกต่างกันดังนี้
การศึกษาแบบเรียนร่วม คือ การจัดให้เด็กพิเศษได้เข้าไปในระบบการศึกษาทั่วไป
การศึกษาแบบเรียนรวม คือ รับเด็กเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มเข้าการศึกษา

  การศึกษาแบบเรียนร่วมมี 2 แบบ คือ
1.การเรียนร่วมบางเวลา Integration จัดให้เด็กพิเษษได้เรียนในโรงเรียนปกติในบางเวลา แต่เป็นเด็กที่มีความพิการระดับปานกลางถึงระดับมาก
2.การเรียนร่มแบบเต็มเวลา Mainstreaming จัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติตลิดเวลาที่เด็กอยู่ในโรงเรียน ใช้ได้กับเด็กที่มีความพิการระดับน้อย

ปรัชญาการศึกษา 

Education for all
การศึกษาสำหรับทุกคน

   สาระน่ารู้
- เพลงใช้กับเด็กพิเศษได้เป็นอย่างดีในกิจวัตรประจำวัน
-เพลงสามารถช่วยบำบัดเด็กพิเศษได้เป็นอย่างดี
-ต้องใช้เวลาในการบำบัดเด็กพิเศษ เพราะฉะนั้นต้องมีความอดทนและเป็นคนใจเย็นมากที่สุด
-อย่าคาดหวังหรือตั้งเป้าหมายกับเด็กพิเศษมากเกินไป แต่จงเชื่อว่าเด็กพิเศษสามารถทำได้ เราจึงค่อยๆส่งเสริมเด็กไปเรื่อยๆ
-ในการเรียนรวมกันในห้องเรียนระหว่างเด็กพิเศษและเด็กปกติ จุดสำคัญ คือ อย่าให้เด็กในห้องเอาจุดด้อยของเพื่อนมาล้อเลียนเด็ดขาด
-ถ้ามีเด็กพิเศษเรียนร่วมกับเด็กปกติ ครูควรบอกเด็กปกติ เพื่อให้เด็กช่วยกันดูแลและช่วยเหลือกัน แต่ไม่ควรบอกในทางตรง ควรบอกในทางอ้อม เช่น" เพื่อนคนนี้ไม่ค่อยสบาย เราต้องช่วยกันดูแลเพื่อนนะคะ"
-อย่าดูถูกว่า เด็กทำไม่ได้

ท้ายชั่วโมงอาจารย์ให้นักศึกษาทุกคนทำ Post Test 


การนำความรู้ไปใช้

  สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการสอนเด็กพิเศษที่อยู่ร่วมห้องเรียนกับเด็กปกติได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของการสอน การจัดกิจกรรม การดูแลและให้ความช่วยเหลือที่ถูกต้องและเหมาะสม

 ทำให้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างการศึกษาแบบเรียนร่วมและการศึกษาแบบเรียนรวม ซึ่งทำให้เราสามารถไปสิ่งที่ได้รับในวันนี้ไปใช้กับเด็กปฐมวัยได้อย่างถูกต้อง

 ในหัวข้อ สาระน่ารู้ ทำให้มีความเข้าใจมากขึ้นในเรื่องของการเรียนร่วมกันของเด็กพิเศษกับเด็กปกติว่าต้องทำอย่างไรถึงจะให้พวกเขาสามารถยืนในพื้นที่ของสังคมได้เหมือนคนทั่วไป อาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควร แต่สิ่งที่ได้รับ คือ ทำให้เด็กพิเศษเติบโตและอยุ่ได้เหมือนคนปกติทั่วไป


  ประเมินตนเอง : เข้าเรียนก่อนเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ตั้งใจฟังอาจารย์สอนร้องเพลงและฟังอาจารย์สอนตามเนื้อหาที่เรียน ร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนๆคือ ร้องเพลงสำหรับเด็กปฐมวัย มีความสุขสนุกสนานคะ ^___^"

  ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆแต่งกายเรียบร้อย จะมีบางคนมาเข้าเรียนสายบ้างนิดหน่อย ตั้งใจเรียนและร่วมทำกิจกรรม การร้องเพลงสำหรับเด็กปฐมวัย อย่างเต็มที่ ทุกคนร่าเริงแจ่มใสคะ >___<"

  ประเมินอาจารย์ : อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจสอนนักศึกษาอย่างเต็มที่ มีการยกตัวอย่างเพื่อให้นักศึกษามีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ร้องเพลงได้เพราะ และมีการสรุปทบทวนในท้ายชั่วโมง อารมณ์ดี ร่าเริงเเจ่มใสคะ ^^